ถ้าพูดถึงน้ำมันมะกอกแล้ว สิ่งจะนึกขึ้นมาทันทีในหัวเลยคงจะได้แก่ น้ำมันเพื่อสุขภาพ, ราคาแพง, กินเปล่าๆได้เลย, กลิ่นมะกอกเพียบ อะไรทำนองนี้แน่ๆเลย ซึ่งก็ถูกตามนั้นเลยล่ะ แล้วทีนี้หลายๆคนก็คงนึกสงสัยว่าน้ำมันแบบเดียวกันมันก็น่าจะเหมือนๆกันซิ เหมือนกับน้ำมันถั่วเหลืองที่ยี่ห้ออะไรก็ไม่เห็นต่างกันเลยนี่น่า ซึ่งอันนั้นก็ถูกครับ สำหรับน้ำมันชนิดเดียวกัน ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไรก็น่าจะเหมือนๆกัน อารมณ์เหมือนน้ำตาลทรายยังไงอย่างงั้น
แต่!!! ไม่ใช่สำหรับน้ำมันมะกอกหรอกนะ โดยเฉพาะน้ำมันมะกอกชนิดที่เหมาะสำหรับการกินเปล่าๆอย่าง Extra Virgin ยิ่งทำให้คนทานสามารถรับรู้ถึงรสชาติของน้ำมันแบบตรงๆเลย (เพราะน้ำมันชนิดอื่นๆที่เหมาะสำหรับผัดหรือทอด จะไม่ได้รับรสของน้ำมันแบบเน้นๆซักเท่าไหร่)
ดังนั้นคราวนี้เลยจะขอมาทดสอบความแตกต่างของน้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin กับยี่ห้อดังๆที่มีขายในบ้านเรากัน
ผู้เข้าประกวดได้แก่ Bertolli, Monini และ Sabroso ซึ่งจะเป็นยี่ห้อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่บนชั้นวางของตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ซึ่งก็เช่นเคย เราจะรีวิวกันไล่ไปในแต่ละแง่มุมกัน
อย่างแรกเลย สี แต่ละยี่ห้อมีสีที่ใกล้เคียงกัน ยกเว้นแต่ Sabroso ที่สีจะอ่อนกว่านิดนึง
กลิ่น กลิ่นของน้ำมันมะกอกจัดว่าเป็นเอกลักษณ์มาก ซึ่งทั้ง Bertolli จะหอมกลิ่นมะกอก ส่วน Monini จะหอมกลิ่นมะกอกแบบเข้มข้น และ Sabroso นั้นจะมีกลิ่นมะกอกที่จางกว่าทั้ง 2 ตัวหน่อย
ต่อมาเป็นจุดสำคัญละ นั่นคือรสชาตินั่นเอง ซึ่งผมได้แบ่งการชิมเป็น 2 แบบ ก็คือชิมแบบเพียวๆ กับชิมคู่กับผักสลัด
เนื่องจากน้ำมันมะกอกแบบ Extra Virgin ส่วนมากจะนำมาใช้เป็น dressing ทานคู่กับสลัด หรือจิ้มขนมปังคู่กับ Vinegar กันแบบสดๆ ดังนั้นในครั้งนี้เลยขอลองชิมคู่กับผักสลัดละกัน เริ่มจากชิมแบบเปล่าๆก่อน
หลังจากชิมแล้ว บอกได้เลยว่า……จืดสนิท
ก็แน่ล่ะ!! นี่มันน้ำมัน ไม่ใช่น้ำสับปะรด จืดก็ถูกแล้ว แต่ที่ต่างออกไปคือ กลิ่นของมะกอกที่แผ่ซ่านออกมานั่นเอง ซึ่งจะเป็นกลิ่นแบบเดียวกับที่เราทดสอบดมเลย เพียงแต่ว่าของ Bertolli ผมรู้สึกถึงรสขมนิดๆตอนปลายๆเท่านั้นเอง
ต่อมาก็ลองชิมแบบทานคู่ผักสลัดดู ว่าแล้วก็ราดน้ำมันลงไปเล้ยยย เอาแค่พอดีๆนะ ไม่ต้องชุ่มมาก
พอลองชิมปุ๊บ รู้สึกถึงความเข้ากันได้ของผักสลัดกับน้ำมันมะกอก Extra Virgin อย่างบอกไม่ถูก ทำให้ผักไม่ได้มีแต่รสผักอย่างเดียว แต่มีความมันและความหอมของมะกอกฟุ้งกระจายไปทั่วปากด้วย
ซึ่งหลังจากชิมก็รู้สึกค่อนข้างสอดคล้องกับการทดลองชิมแบบเปล่าๆ โดยที่ Bertolli จะหอมมะกอกกระจายทั่วปากแต่ยังได้รสขมนิดๆเช่นเดิม Monini กลิ่นหอมมะกอกแบบเข้มข้นจะกระจายทั่วปาก ส่วน Sabroso จะได้กลิ่นมะกอกน้อยกว่า หอมแบบจางๆ
เราลองมาดูสรุปกันดีกว่าว่าแต่ละยี่ห้อต่างกันจุดไหนบ้าง
[image src=”http://www.araideewa.com/wp-content/uploads/2017/02/Result-olive-oil2.png” width=”” height=”” align=”” caption=”” link=”” link_image=”http://www.araideewa.com/wp-content/uploads/2017/02/Result-olive-oil2.png” target=”” alt=”” border=”0″ greyscale=”0″ animate=””]
มาสรุปผลเป็นรายตัวกันดีกว่า
Bertolli : น้ำมันมะกอกสัญชาติอิตาลี ที่ตอนนี้ถูกขายไปอยู่ใต้สังกัดบริษัทสเปนละ สำหรับความหอมและรสชาตินั้นได้กลิ่นของมะกอกเต็มที่ จะมีเรื่องของรสขมนิดๆที่ติดมา ซึ่งเข้าใจว่าอาจจะเป็นปรกติของน้ำมันมะกอกบางตัว ไม่แน่ใจว่าเพราะใช้มะกอกจากหลายๆที่มารวมกันรึเปล่า เลยมีติดมา แต่โดยส่วนตัว น้ำมันมะกอกแบบ Extra Virgin นั้นเหมาะสำหรับกินสดๆอยู่แล้ว รับรสน้ำมันมะกอกเพียวๆ เลยไม่ค่อยชอบให้มีรสขมติดมาซักเท่าไหร่
Monini : น้ำมันมะกอกสัญชาติอิตาลีดั้งเดิม ที่ยังคงเป็น local brand อยู่ เห็นว่าใช้มะกอกจากอิตาลี 100% เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด สำหรับความหอมกับรสชาตินั้นหอมมะกอกเข้มข้น ไม่มีรสขม เลยทำให้รู้สึกว่ากินแบบสดๆได้อย่างสบาย
Sabroso : สำหรับตัวนี้เป็นน้ำมันมะกอกสัญชาติสเปน เลยรู้สึกถึงความแตกต่างจากยี่ห้ออื่นในด้านกลิ่นที่จะหอมมะกอกจางๆหน่อย ถ้าสำหรับคนที่ชอบกลิ่นมะกอกแบบหอมเข้มข้นแล้ว ตัวนี้อาจจะรู้สึกถึงความจางกว่าคนอื่นซักหน่อย สำหรับรสชาติจะจืดไม่มีรสขม กินได้สบายๆ
จากที่ได้ชิมมาทั้งหมดแล้วจะบอกว่าดูเผินๆอาจจะไม่ค่อยต่างอะไรมาก แต่ในจุดเล็กๆนั้นก็สร้างความต่างในการตัดสินใจเลือกได้เลยทีเดียว ดังนั้น Editor’s choice ในครั้งนี้ขอมอบให้แก่ Monini ด้วยความที่ให้กลิ่นมะกอกที่หอมฟุ้งไปทั่วทั้งปากและรสสัมผัสที่เข้ากันได้ดีกับสลัด ไม่ติดรสขม เลยขอยกตำแหน่งนี้ให้ไปเลยครับผม