กินร้านอะไรดีวันนี้ ด้วยความเกิดอยากจะกินเนื้อย่างอย่างเต็มเปี่ยมของแอดมิน หลังจากหมดพลังจากการทำข้อสอบมาทั้งวัน เลยชวนเพื่อนสายเนื้อย่างมาลองร้านเนื้อย่างน้องใหม่ที่มีเพื่อนแนะนำอีกที ครั้งนี้ขอนำเสนอร้านเนื้อย่างระดับพรีเมี่ยม ย่านเกษตร-นวมินทร์ กับร้าน ” Monster Beef ”
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ซอย สุคนธสวัสดิ์ 30 ตรงข้าม The walk ถนนเกษตรนวมินทร์ เข้ามาประมาณ 100 m ร้านอยู่ซ้ายมือ หาง่ายไม่ยากครับ ที่ร้านมีที่จอดรถพอสมควร กลางคืนก็สามารถจอดริมถนนได้ (FB ร้าน : https://www.facebook.com/MonsterBeef/)
หลังจากได้ที่จอดรถเรียบร้อยแล้ว ก็ตรงดิ่งเข้าร้านเลยดีกว่า ท้องเริ่มร้องละ
บรรยากาศในร้านดูโฉบเฉี่ยว กระจกรอบด้าน ไม่เหมือนร้านเนื้อย่างทั่วไป ให้ความรู้สึกเหมือนโชว์รูมมากกว่า หลังจากได้โต๊ะแล้ว น้องพนักงานก็เอาเมนูมานำเสนออย่างรวดเร็ว
ทางเจ้าของร้านได้เข้ามาแนะนำว่า ทางร้านโดดเด่นเรื่องเนื้อวัวซึ่งเป็นเนื้อวัว Grain fed ที่เลี้ยงด้วยธัญพืช ซึ่งทำให้คุณภาพเนื้อออกมาดีเยี่ยม เนื้อสะอาด ไม่เหม็นคาว มีมันแทรกอยู่มาก กลิ่นของเนื้อจะดีกว่าเนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยวิธี Grass fed แถมร้านนี้มีเนื้อวากิว A5 ซะด้วยนะเนี่ย ได้ยินแค่นี้ก็เริ่มอยากกินแระ ต้องขอลองซะหน่อยล่ะ
นอกจากเนื้อแล้ว ถ้าหากใครที่ไม่ทานเนื้อ ก็ยังมีเมนูอื่นๆเช่นซีฟู้ด หมู ไก่ ให้เลือกเช่นกันครับ
สำหรับครั้งนี้จะขอลิ้มรสชาติเนื้อที่เป็นพระเอกของร้านให้เต็มที่ไปเลย
หลังจากสั่งไปไม่นานเนื้อชุดแรกก็มาถึง โดยสั่งไปได้แก่ ซี่โครงแกะ, เนื้อใบพายและเนื้อสะโพก
ส่วนอันนี้เนื้อสะโพกครับ ลายเนื้อสวยมากๆเลย
แล้วก็ไม่รอช้า ขอจัดแจงเอาลงเตาเลยนะครับ ซึ่งจะบอกว่าเตาของที่นี่ก็มีดี เป็นเตาแบบอินฟาเรด ที่แทบจะไม่มีควัน แถมไฟแรงตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาเติมถ่านด้วย ตัวตะแกรงเองก็เคลือบเทฟลอนทำให้เนื้อไม่ติดตะแกรงเลย ดีงามมากมาย
น้องพนักงานแนะนำมาว่าให้ปิ้งด้านละ 13 วินาที พอ และพลิกแค่ครั้งเดียว อย่าพลิกไปมา เพราะจะทำให้เนื้อเสียความชุ่มฉ่ำไป (มีเทคนิคด้วย) ด้วยความที่อยากลิ้มรสความอร่อยอย่างเต็มที่ ก็นั่งนับวินาทีกับเพื่อนเลยทีเดียวครับ 555
หลังจากครบเวลา ก็ได้เวลาจัดการเนื้อตรงหน้ากันละครับ อู้วววว
กินพร้อมกันกับข้าวกระเทียมนี่ สุดยอดละครับ ข้าวกระเทียมที่นี่เหมาะจะกินกับเนื้อมากครับ เพราะว่ากลิ่นกระเทียมไม่แรงเกินไป ทำให้ไม่กลบรสชาติเนื้อ สำหรับรสชาติเนื้อ เป็นตามนี้ครับ
เนื้อใบพาย : เนื้อนุ่ม มีความหนึบให้เคี้ยวเพลินๆ
เนื้อสะโพก : ส่วนนี้นุ่มมาก ได้กลิ่นเนื้อชัดเจน อร่อยมากครับ
ซี่โครงแกะ : ส่วนนี้ใช้เวลาย่างนานหน่อย ออกมาอร่อยมากครับ เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว และไม่เหม็นสาบแกะด้วย กินคู่น้ำจิ้มมิ้นต์เข้ากันได้เป็นอย่างดี
จานต่อมาก็เป็นเนื้อระดับสูงขึ้นอีกขั้น กับเนื้อ RibEye ครับ
สำหรับจานนี้ต้องเรียกว่าถูกใจที่สุดแล้ว เพราะความนุ่มอร่อยที่แทบจะละลายในปากจริงๆ สำหรับจานนี้ลืมถ่ายตอนย่างมา ต้องขออภัยด้วย เพราะหมดเร็วมากกก
และแล้วก็ได้เวลาทีเด็ดของร้านนี้ปรากฎกายกันแล้วครับ กับ “เนื้อวากิว A5”
สำหรับชิ้นนี้ผมขอทางร้านแบบที่มีมันเยอะหน่อย เพราะส่วนตัวชอบความหอมหวานของมันเนื้อ และถ้ายิ่งเป็น A5 ก็น่าจะยิ่งหอมหวานเข้าไปอีก ว่าแล้วก็จัดแจงลงเตากันไปเลยเจ้า A5 …….ชั้นเลือกนายยยย
แสงไฟยังกะอยู่ในคอนเสิร์ตยังไงยังงั้น และแล้วก็ได้ออกมาตามนี้เลยครับ น่ากินซะขนาดดดดด
สำหรับรสชาติของวากิว A5 ที่นี่นั้น ขอบอกได้เลยว่า นุ่มละลายในปากจริงๆครับ กินแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลย หรือไม่ก็โรยเกลือกับพริกไทยบางๆ แค่นี้ก็อร่อยเด็ดละครับผม
เป็นการปิดท้ายได้อย่างสวยงามสำหรับมื้อนี้ ฟินมากครับสำหรับคุณภาพเนื้อย่าง การบริการก็รวดเร็วฉับไวดีครับ
สำหรับร้าน Monster Beef นี้ถือว่าเป็นอีกร้านเนื้อย่างในดวงใจของผมตอนนี้เลยครับ คุณภาพเนื้อดี บริการรวดเร็วทันใจ แบบที่ต้องมีมาซ้ำอีกรอบแน่นอนครับ